รวมข้อมูลเครดิตบูโรที่ลูกหนี้ธนาคาร ควรต้องรู้ ก่อนจะขอสินเชื่อ
เครดิตบูโรคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ทำไมต้องตรวจสอบเครดิตบูโร ซึ่งเป็นคำถามที่พบบ่อยมากๆสำหรับคนที่ต้องการจะขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ และในบทความนี้จะรวบรวมข้อมูลสำคัญที่ผู้กู้ทุกคนควรจะต้องรู้ และเป็นแนวทางในเรื่องการป้องกัน และการแก้ไข หากเกิดผิดพลาด หรือชำระหนี้ล่าช้า
รวบรวมข้อควรรู้ต่างๆของ เครดิตบูโร
เครดิตบูโร คือ อะไร และสำคัญอย่างไร
คือข้อมูลทุกอย่างในสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติทั้งหมดและการชำระหนี้ทั้งหมดของแต่ละบุคคล ซึ่งจัดเก็บโดยบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด โดยจะรวมทุกๆผลิตภัณฑ์ เช่น ขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือบัตรเครดิตกี่ใบ มีของธนาคารไหนบ้าง และรวมไปถึงการชำระหนี้ สถานะต่างๆจะถูกรวบรวมไว้ในข้อมูลของเครดิตบูโรทั้งสิ้น
เหตุผลที่ควรจะต้องตรวจสอบเครดิตบูโร
- สำหรับผู้ที่ต้องการจะขอสินเชื่อในสถาบันการเงินต่างๆซึ่งจะทำให้รู้ผลการอนุมัติเบื้องต้นได้ หากในข้อมูลเครดิตสถานะ 20 ซึ่งมีหนี้ค้างชำระอยู่หลายบัญชี ก็เป็นไปได้ว่าธนาคารอาจจะไม่อนุมัติสินเชื่อนั้นๆให้ได้ เนื่องจากนำข้อมูลจากเครดิตบูโรไปพิจารณาแล้วว่าเรามีแนวโน้มจะไม่สามารถผ่อนชำระสินเชื่อได้ในอนาคต
- ทำให้รู้สถานะทางการเงินของตัวเอง และยังคงไว้ให้ดีตลอด เพื่อจะได้มีโอกาสหากต้องการขอสินเชื่อในครั้งต่อๆไป และอย่าลืมเช็กประวัติการค้างชำระด้วยว่าถูกต้องหรือเปล่า หากไม่ถูกต้องก็สามารถขอแก้ไขได้
- ทำให้สามารถจะป้องกันการเป็นหนี้ได้ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ช่วยให้สามารถจะป้องกันและรีบแก้ไขหากพบว่ามีใครแอบอ้างนำข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้ ไม่ว่าจะสำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารการเงินต่าง ๆ เพื่อนำไปแอบอ้างในการขอสินเชื่อ
- เป็นเอกสารที่มีความสำคัญที่จะใช้ประกอบในการสมัครงานในบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับการเงิน หรืออื่นๆตามเงื่อนไขบริษัท
ข้อมูลเครดิตบูโรมีความหมายอย่างไร ที่สำคัญและควรจะรู้
- 10 คือ ยังมีการชำระหนี้ได้ตามปกติ มีการจ่ายครบและตรงตามเงื่อนไข ทำให้ไม่มียอดค้างชำระหรือค้างชำระได้แต่ไม่เกิน 30 วัน
- 11 คือ ปิดบัญชีสินเชื่อแล้ว ไม่มีหนี้ค้างชำระ
- 12 คือ เคยชำระหนี้อยู่แล้ว แต่ได้ขอร่วมโครงการพักชำระหนี้ตามนโยบายรัฐ หรือตามโครงการของรัฐบาล
- 20 คือ หนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน และมีผลเสียต่อลูกหนี้หากต้องการขอสินเชื่อในครั้งต่อๆไป
เครดิตบูโร กับการติดแบล็คลิสกี่ปีหมด
ปกติเมื่อลูกหนี้เกิดการล่าช้า และไม่มีการชำระหนี้ หรือมีการละเลยในการจ่ายหนี้ต่างๆ ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า ถึงแม้จะไม่มีการชำระหนี้ แต่เมื่อผ่านระยะเวลานึงไปแล้ว จะไม่มีข้อมูลเครดิตบูโรปรากฎขึ้นมาให้เช็คได้ ซึ่งจริงๆแล้วเครดิตบูโร ที่เกี่ยวกับการติดแบล็คลิส จะลบข้อมูลไปภายใน 3 ปี แต่นั่นหมายถึงหลังจากที่ลูกหนี้มีการปิดหนี้ที่ค้างชำระเดิมมาหมดแล้วนั่นเอง
ซึ่งจากข้อมูลเครดิตบูโรนี้เอง ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์เพื่อจะช่วยบุคคลเหล่านี้ให้มีศักยภาพในการชำระหนี้เพิ่มมากขึ้น โดยมีการสินเชื่อเพื่อคนติดบูโร ซึ่งมีทั้งที่ อยู่ในสถานะ 12 และ 20 รวมไปถึงคลินิกแก้หนี้ สำหรับคนที่ต้องการจะแก้ไขหนี้เสีย
สารบัญ